ว่าด้วยการกระทำที่สุดทุกข์

ว่าด้วยการกระทำที่สุดทุกข์
พระพุทธเจ้าตรัสกะท่านพระราหุลว่า

ปฐวีธาตุที่เป็นภายในก็ดี เป็นภายนอกก็ดี
ปฐวีธาตุนั้นก็เป็น แต่สักว่าปฐวีธาตุเท่านั้น
พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
เพราะเห็นด้วยปัญญา อันชอบตามความเป็นจริงอย่างนั้น
จิตย่อมเบื่อหน่ายในปฐวีธาตุ
ย่อมคลายกำหนัดในปฐวีธาตุ

อาโปธาตุที่เป็นภายในก็ดี เป็นภายนอกก็ดี
อาโปธาตุนั้นก็เป็น แต่สักว่าอาโปธาตุเท่านั้น
พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
เพราะเห็นด้วยปัญญา อันชอบตามความเป็นจริงอย่างนั้น
จิตย่อมเบื่อหน่ายในอาโปธาตุ
ย่อมคลายกำหนัดในอาโปธาตุ

เตโชธาตุที่เป็นภายในก็ดี เป็นภายนอกก็ดี
เตโชธาตุนั้นก็เป็น แต่สักว่าเตโชธาตุเท่านั้น
พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
เพราะเห็นด้วยปัญญา อันชอบตามความเป็นจริงอย่างนั้น
จิตย่อมเบื่อหน่ายในเตโชธาตุ
ย่อมคลายกำหนัดในเตโชธาตุ

วาโยธาตุที่เป็นภายในก็ดี เป็นภายนอกก็ดี
วาโยธาตุนั้นก็เป็น แต่สักว่าวาโยธาตุเท่านั้น
พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
เพราะเห็นด้วยปัญญา อันชอบตามความเป็นจริงอย่างนั้น
จิตย่อมเบื่อหน่ายในวาโยธาตุ
ย่อมคลายกำหนัดในวาโยธาตุ
เพราะเหตุที่พิจารณาเห็นว่า
ไม่ใช่ตัวตนไม่เนื่องในตนในธาตุ 4 นี้
พระพุทธเจ้ากล่าวว่าตัดตัณหาได้แล้ว
รื้อถอนสังโยชน์เสียได้
การกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้แล้ว
เพราะละมานะได้โดยชอบ