ยมกวรรคที่ 2

ยมกวรรคที่ 2
อวิชชาสูตร ว่าด้วยอวิชชา มีนิวรณ์ 5 เป็นอาหาร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เงื่อนต้นแห่งอวิชชาย่อมไม่ปรากฏ
ในกาลก่อนแต่นี้อวิชชาไม่มี แต่ภายหลังจึงมี
เพราะเหตุนั้นเราจึงกล่าวคำนี้ อย่างนี้ว่าก็เมื่อเป็นเช่นนั้น
อวิชชามีข้อนี้เป็นปัจจัยจึงปรากฏ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าว่าอวิชชาว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของอวิชชา ควรจะกล่าวว่านิวรณ์ 5
แม้นิวรณ์ 5 เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของนิวรณ์ 5 ควรกล่าวว่าทุจริต 3
แม้ทุจริต 3 เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของทุจริต 3 ควรกล่าวว่าการไม่สำรวมอินทรีย์
แม้การไม่สำรวมอินทรีย์ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารแห่งการไม่สำรวมอินทรีย์ ควรกล่าวว่าความไม่มีสติสัมปชัญญะ
แม้ความไม่มีสติสัมปชัญญะ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหาร ของความไม่มีสติสัมปชัญญะ
ควรกล่าวว่าการกระทำไว้ในใจ โดยไม่แยบคาย
แม้การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย เราก็กะว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของการทำไว้ในใจ โดยไม่แยบคาย ควรกล่าวว่าความไม่มีศรัทธา
แม้ความไม่มีศรัทธา เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของความไม่มีศรัทธา ควรกล่าวว่าการไม่ฟังสัทธรรม
แม้การไม่ฟังสัทธรรม เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของการไม่ฟังสัทธรรม ควรกล่าวว่าการไม่คบสัปบุรุษ
ดูกรภิกษุทั้งหลายด้วยประการดังนี้
การไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์
ความไม่มีสถานที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจ โดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์
การทำไว้ในใจ โดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์
ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์
การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต 3 ให้บริบูรณ์
ทุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังนิวรณ์ 5 ให้บริบูรณ์
นิวรณ์ 5 ที่บริบูรณ์ย่อมยังอวิชชาให้บริบูรณ์
อวิชชานี้มีอาหารอย่างนี้และบริบูรณ์อย่างนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหยาบ ตกลงเบื้องบนภูเขา
เมื่อฝนตกหนักอยู่ น้ำนั้นไหลไปตามที่ลุ่ม
ย่อมยังซอกเขาลำธารและห้วยให้เต็ม
ซอกเขาลำธารและห้วยที่เต็ม ย่อมยังหนองให้เต็ม
หนองที่เต็มย่อมยังบึงให้เต็ม บึงที่เต็มย่อมยังแม่น้ำน้อยให้เต็ม
แม่น้ำน้อยที่เต็มย่อมยังแม่น้ำใหญ่ให้เต็ม
แม่น้ำใหญ่ที่เต็มย่อมยังมหาสมุทรสาครให้เต็ม
มหาสมุทรสาครนั้นมีอาหารอย่างนี้ และเต็มเปี่ยมอย่างนี้แม้ฉันใด
ดูกรภิกษุทั้งหลายการไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์
ย่อมยังการไม่ฟัสัทธรรมให้บริบูรณ์
นิวรณ์ 5 ที่บริบูรณ์ย่อมยังอวิขชาให้บริบูรณ์
อวิชชานี้มีอาหารอย่างนี้และบริบูรณ์อย่างนี้
ฉันนั้นเหมือนกันแล

ว่าด้วยวิชชาและวิมุตติ มีโพชฌงค์ 7 เป็นอาหาร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เรากล่าววิชาและวิมุตติว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของวิชาและวิมุต ควรกล่าวว่าโพชฌงค์ 7
แม้โพชฌงค์ 7 เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของโพชฌงค์ 7 ควรกล่าวว่าสติปัฏฐาน 4
แม้สติปัฏฐาน 4 เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของสติปัฏฐาน 4 ควรกล่าวว่าสุจริต 3
แม้สุจริต 3 เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของสุจริต 3 ควรกล่าวว่าการสำรวมอินทรีย์
แม้การสำรวมอินทรีย์เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
อะไรเป็นอาหารของการสำรวมอินทรีย์ ควรกล่าวว่าสติสัมปชัญญะ
แม้สติสัมปชัญญะเราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
อะไรเป็นอาหารของสติสัมปชัญญะ ควรกล่าวว่าการทำไว้ในใจโดยแยบคาย
แม้การทำไว้ในใจโดยแยบคาย เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ควรกล่าวว่าศรัทธา
แม้ศรัทธาเราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของศรัทธา ควรกล่าวว่าการฟังสัทธรรม
แม้การฟังสัทธรรมเราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร
ก็อะไรเป็นอาหารของการฟังสัทธรรม ควรกล่าวว่าการคบสัปบุรุษ
ดูกรภิกษุทั้งหลายด้วยประการดังนี้
การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการฟังการสัทธรรมให้บริบูรณ์
การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังศรัทธาให้บริบูรณ์
ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจ โดยแยบคายให้บริบูรณ์
การทำไว้ในใจ โดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติสัมปชัญญะ ให้บริบูรณ์
สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการสำรวมอินทรีย์ ให้บริบูรณ์
การสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ อมยังสุจริต 3 ให้บริบูรณ์
สุจริต 3 ที่บริบูรณ์ย่อมยังสติปัฏฐาน 4 ให้บริบูรณ์
สติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังโพชฌงค์ 7 ให้บริบูรณ์
โพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์
วิชชาและวิมุตนี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหยาบ ตกลงเบื้องบนภูเขา
เมื่อฝนตกหนักอยู่ น้ำนั้นไหลไปตามที่ลุ่ม
ยังซอกเขาลำธารและห้วยให้เต็ม
ซอกเขาลำธารและห้วยที่เต็ม ย่อมยังหนองให้เต็ม
หนองที่เต็มย่อมยังบึงให้เต็ม
บึงที่เต็มย่อมยังแม่น้ำน้อยให้เต็ม
แม่น้ำน้อยที่เต็มย่อมยังแม่น้ำใหญ่ให้เต็ม
แม่น้ำใหญ่ที่เต็มย่อมยังมหาสมุทรสาครให้เต็ม
มหาสมุทรสาครนั้นมีอาหารอย่างนี้
และเต็มเปี่ยมอย่างนี้แม้ฉันใด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
โพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์
วิชชาและวิมุตนี้มีอาหารอย่างนี้
และบริบูรณ์อย่างนี้ฉันนั้นเหมือนกันแล