ฐานสูตร

ฐานสูตร ว่าด้วยฐานะ ที่ควรพิจารณาเนืองๆ 5 ประการ
ดูกรภิกษุทั้งหลายฐานะ 5 ประการนี้
อันสตรี บุรุษ คฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆ 5 ประการเป็นไฉน
คือ สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ 1
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ 1
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ 1
เราต้องพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น 1
เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง
จะทำกรรมใดไว้ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม
เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น 1

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความมัวเมาในความเป็นหนุ่มสาว มีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย
ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลาย ประพฤติทุจริตด้วยกายวาจาใจ
เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความมัวเมา
ในความเป็นหนุ่มสาวนั้นได้ โดยสิ้นเชิง
หรือทำให้เบาบางลงได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความมัวเมาในความไม่มีโรค มีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย
ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลาย ประพฤติทุจริตด้วยกายวาจาใจ
เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ
ย่อมละความมัวเมา ในความไม่มีโรคนั้นได้ โดยสิ้นเชิง
หรือทำให้เบาบางลงได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความเมาในชีวิตมีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย
ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลาย ประพฤติทุจริตด้วยกายวาจาใจ
เมื่อเข้าพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความมัวเมาในชีวิตนั้นได้ โดยสิ้นเชิง
หรือทำให้เบาบางลงได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
จึงควรพิจารณาเนืองๆว่า
เราจะต้องพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความพอใจ ความรักใคร่ ในของรักมีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย
ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลาย ประพฤติทุจริตด้วยกายวาจาใจ
เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความพอใจความรักใคร่นั้นได้ โดยสิ้นเชิง
หรือทำให้เบาบางลงได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เราจะต้องพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต
ควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง
จะทำกรรมใดดีก็ตามชั่วก็ตาม
เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
กายทุจริตวจีทุจริตมโนทุจริต มีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย
เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละทุจริตได้โดยสิ้นเชิง
หรือทำให้เบาบางลงได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์หรือบรรพชิต
จึงควรพิจารณาเนืองๆว่า
เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง
จะทำกรรมใดดีก็ตามชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น



ว่าด้วยผลแห่งการพิจารณาฐานะ 5
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณา
เห็นดังนี้ว่าไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้น ที่มีความแก่เป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
โดยที่แท้สัตว์ทั้งปวงบรรดา
ที่มีการมาการไปการจุติการอุปบัติ ล้วนมีความแก่เป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้

เมื่ออริยสาวกนั้น
พิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ มรรคย่อมเกิดขึ้น
อริยสาวกนั้นย่อมเสพอบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อเสพอบรมทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป

อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณา
เห็นดังนี้ว่าไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้น ที่มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
โดยที่แท้สัตว์ทั้งปวง
บรรดาที่มีการมาการไปการจุติการอุปบัติ ล้วนมีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้

เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะ นั้นอยู่เนืองๆมรรคย่อมเกิดขึ้น
อริยสาวกนั้นย่อมเสพอบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อเสพอบรมทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้อนุสัยย่อมสิ้นไป

อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณา
เห็นดังนี้ว่าไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้น ที่มีความตายเป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
โดยที่แท้สัตว์ทั้งปวง
บรรดาที่มีการมาการไปการจุติการอุปบัติ ล้วนมีความตายเป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะ
นั้นอยู่เนืองๆมรรคย่อมเกิดขึ้น
อริยสาวกนั้นย่อมเสพอบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อเสพอบรมทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้อนุสัยย่อมสิ้นไป

อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า
ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่จะต้อง พลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
โดยที่แท้สัตว์ทั้งปวง บรรดาที่มีการมาการไปการจุติการอุปบัติ
ล้วนจะต้องพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น

เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ มรรคย่อมเกิดขึ้น
อริยสาวกนั้นย่อมเสพอบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
เมื่อเสพอบรมทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป
อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า
ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้น ที่มีกรรมเป็นของตน
เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง
จักทำกรรมใดดีก็ตามชั่วก็ตาม
เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
โดยที่แท้สัตว์ทั้งปวง บรรดาที่มีการมาการไปการจุติการอุปบัติ
ล้วนมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง
จะทำกรรมใดดีก็ตามชั่วก็ตาม จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะ นั้นอยู่เนืองๆมรรคย่อมเกิดขึ้น
อริยสาวกนั้นย่อมเสพอบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่
ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป
สัตว์ทั้งหลายย่อม มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา มีความตายเป็นธรรมดา
สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามธรรมดา พวกปุถุชนย่อมเกลียด
ถ้าเราพึงเกลียดธรรมนั้น ในพวกสัตว์ผู้มีอย่างนั้นเป็นธรรมดา
ข้อนั้นไม่สมควรแก่เราผู้เป็นอยู่อย่างนี้ เรานั้นเป็นอยู่อย่างนี้
ทราบธรรมที่หาอุปธิมิได้ เห็นการออกบวช โดยเป็นธรรมเกษม
ครอบงำความมัวเมาทั้งปวง ในความไม่มีโรค
ในความเป็นหนุ่มสาว และในชีวิตความอุตสาหะได้มีแล้วแก่เรา
ผู้เห็นเฉพาะซึ่งนิพพาน
บัดนี้เราไม่ควรเพื่อเสพกามทั้งหลาย
จะเป็นผู้ประพฤติไม่ถอยหลัง ตั้งหน้าประพฤติพรหมจรรย์