อาฬวกสูตรที่ 12

อาฬวกสูตรที่ 12
อาฬวกยักษ์ถามปัญหาพระพุทธเจ้า
อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า อะไรหนอเป็นเครื่องปลื้มใจ
อันประเสริฐของคนในโลกนี้
อะไรหนอบุคคลประพฤติดี นำความสุขมาให้
อะไรหนอเป็นรสอันล้ำเลิศ กว่ารสทั้งหลาย
นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิต ของผู้ที่เป็นอยู่อย่างไรว่าประเสริฐสุดฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ศรัทธาเป็นทรัพย์ อันประเสริฐของคนในโลกนี้
ธรรมอันบุคคลประพฤติดีแล้ว นำสุขมาให้
ความสัตย์แล เป็นรสอันล้ำเลิศกว่ารสทั้งหลาย
นักปราชญ์ทั้งหลาย กล่าวชีวิตของผู้ที่เป็นอยู่ ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุดฯ

อาฬวกยักษ์ทูลถามต่อไปว่า คนข้ามโอฆะได้อย่างไรหนอ
ข้ามอรรณพได้อย่างไร ล่วงทุกข์ได้อย่างไร บริสุทธิ์ได้อย่างไร

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า คนข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา
ข้ามอรรณพได้ด้วยความไม่ประมาท
ล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร บริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา

อาฬวกยักษ์ทูลถามต่อไปว่า คนได้ปัญญาอย่างไรหนอ ทำอย่างไรจึงจะหาทรัพย์ได้
คนได้ชื่อเสียงอย่างไรหนอ ทำอย่างไรจึงจะผูกมิตรไว้ได้
คนละโลกนี้ไปสู่โลกหน้า ทำอย่างไรจึงไม่เศร้าโศกฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า บุคคลเชื่อธรรมของพระอรหันต์ เพื่อบรรลุนิพพาน
ฟังอยู่ด้วยดีย่อมได้ปัญญา เป็นผู้ไม่ประมาทมีวิจารณ์
คนทำเหมาะเจาะไม่ทอดธุระ เป็นผู้หมั่นย่อมหาทรัพย์ได้
คนย่อมได้ชื่อเสียง เพราะความสัตย์ ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้
บุคคลใดผู้อยู่ครองเรือน ประกอบด้วยศรัทธา
มีธรรม 4 ประการนี้ คือสัจจะ ธรรม ฐิติ จาคะ
บุคคลนั้นแลละโลกนี้ไป ย่อมไม่เศร้าโศก
เชิญถามสมณพราหมณ์เป็นอันมาก เหล่าอื่นว่า
โลกนี้มีอะไรยิ่งกว่า สัจจะ ธรรม จาคะ และขันติ

อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า
ทำไมหนอข้าพเจ้าจึงต้องถาม สมณพราหมณ์เป็นอันมาก
ในบัดนี้วันนี้ข้าพเจ้ารู้ชัดถึง สัมปรายิกประโยชน์
พระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงเมืองอาฬวี
วันนี้ข้าพเจ้ารู้ชัด ถึงการที่บุคคลให้ในที่ใดมีผลมาก
ข้าพเจ้าจักเที่ยว จากบ้านไปสู่บ้าน จากบุรีไปสู่บุรี
พลางนมัสการสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธรรมซึ่งเป็นธรรมที่ดีฯ