ตามทันตัวเรา

ตาเห็นรูป รูปไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
หูได้ยินเสียง เสียงไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
จมูกได้กลิ่น กลิ่นไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
ลิ้นได้รส รสไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
กายสัมผัส ไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
ใจคิดนึก ไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ



ตาเห็นรูป รูปไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
รูปเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

หูได้ยินเสียง เสียงไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
เสียงเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

จมูกได้กลิ่น กลิ่นไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
กลิ่นเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

ลิ้นได้รส รสไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
รสเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

กายสัมผัส ไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
สัมผัสเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

ใจคิดนึก ไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
ความคิดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ



รูป ร่างกาย อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
ทั้งหมดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

เวทนา ความพอใจไม่พอใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
ทั้งหมดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

สัญญา ความจำ อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
ทั้งหมดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

สังขาร ความคิด อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
ทั้งหมดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

วิญญาณ ความรู้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
ทั้งหมดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

อุปทานขันธ์ 5 เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง
เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว แล้วแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ

รูป ร่างกาย อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
ทั้งหมดเป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดจากเหตุปัจจัย มาประชุมปรุงแต่งชั่วคราว กำลังจะแตกสลาย
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ไม่เที่ยงเกิดดับ